“แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น” รวมพลังในแคมเปญ “60+ Earth Hour 2022” ผนึกพันธมิตร-บริษัทในเครือกว่า 30 แห่งทั่วประเทศ ร่วมปิดไฟ 1 ชม. ลดการใช้พลังงาน สร้างความตระหนักถึงปัญหาภาวะโลกร้อน ตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

28 มีนาคม 2565

สามารถลดการใช้พลังงานได้ 1,921 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 0.96 ตันคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เทียบเท่า เดินหน้าแผนระยะยาวสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030

26 มีนาคม 2565, กรุงเทพฯ ประเทศไทย – บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร ร่วมกิจกรรม “60+ Earth Hour 2022” ในฐานะภาคีเครือข่ายของกรุงเทพมหานคร และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล หรือ WWF ประเทศไทย จับมือสถานประกอบการในเครือทั่วประเทศกว่า 30 แห่ง ร่วมปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2565 ณ ลานสกายวอล์คช่องนนทรี เพื่อลดปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้า และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อมและใช้พลังการอย่างยั่งยืนเพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน

นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมในฐานะภาคีเครือข่ายกับทางกรุงเทพมหานคร และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล เพื่อร่วมรณรงค์ในการอนุรักษ์พลังงาน โดยในปีนี้ AWC พร้อมสถานประกอบการในเครือทั่วประเทศกว่า 30 แห่ง จากทั้ง 4 หน่วยธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มโรงแรมและการบริการ 17 แห่ง กลุ่มศูนย์การค้า 7 แห่ง กลุ่มอาคารสำนักงาน 4 แห่ง และกลุ่มธุรกิจค้าส่ง 2 แห่ง ได้ร่วมกันปิดไฟเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ระหว่างเวลา 20:30 - 21:30 น. ในวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ 1,921 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) และสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 0.96 ตันคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เทียบเท่า (TonCO2eq)

การดำเนินโครงการดังกล่าว ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของ AWC ซึ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์หลักด้านความยั่งยืนองค์รวม (Sustainability) ที่ใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจในทุกกระบวนการ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย Better Planet การพัฒนาและดำเนินงานเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรของโลกได้อย่างยั่งยืน Better People การพัฒนาบุคลากรขององค์กรรวมไปถึงการสร้างโมเดลกิจการวิสาหกิจเพื่อสังคมที่สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ชุมชน และ Better Prosperity การพัฒนาที่แข็งแกร่งเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยมุ่งสร้างมูลค่าให้กับระบบเศรษฐกิจ (Ecosystem) ทั้งหมดเป็นความมุ่งมั่นในการสร้างคุณค่าองค์รวมทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย

นางวัลลภา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสพิเศษนี้ บริษัทพร้อมเดินหน้าผลักดันกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อชุมชน สังคม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่ดีกว่า ภายใต้มาตรการอนุรักษ์พลังงาน (Energy Saving Initiatives: ESIs) รวมถึงนโยบายระยะยาวเพื่อมุ่งสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2030

นอกจากนี้ AWC ยังมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่สีเขียว (Tree Asset) ในแต่ละสถานประกอบการ ซึ่งเป็นแผนงานที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มี Tree Asset รวมกันแล้วทั้งหมดกว่า 7,975 ต้น (นับจากเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ซม. ขึ้นไป โดยวัดจากระดับความสูง 30 ซม.)

สำหรับ AWC มีความมุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญ และศักยภาพในการพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน ควบคู่กับการส่งมอบคุณค่าในระยะยาวในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับการจัดอันดับจาก S&P Global ประจำปี 2022 ในฐานะบริษัทที่มีความยั่งยืนของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญ (Hotels, Resorts & Cruise Lines) จากรายงาน The Sustainability Yearbook 2022 รวมถึงได้รับการประเมิณจาก MSCI ESG Rating ในระดับ “AA” โดย Morgan Stanley Capital International ซึ่งเป็นบริษัทจัดทำดัชนีราคาหุ้นชั้นนำของโลกเพื่อให้เป็นมาตรฐานของนักลงทุน และได้รับการจัดอันดับอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน THSI ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่สะท้อนการดำเนินธุรกิจภายใต้กรอบนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของ AWC ในการร่วมสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับทุกคน

ย้อนกลับ